“วันนี้ได้เข้าเรียนที่ห้อง ICT ก็ดีครับ ได้เปลี่ยนบรรยากาศการเรียนการสอน ครูให้ลองค้นคว้าหาข้อมูลจาก Web Site ที่เกี่ยวกับเรื่องที่เรียน โดยคีย์คำที่ต้องการค้น โห ผมค้นเจอข้อมูลทั้งที่เป็นภาษาไทยและภาษาอังกฤษ แต่เพื่อนบางคนค้นได้นิดเดียว บางคนค้นได้มากมาย แต่ก็ยังมีเพื่อนบางคนที่ไม่รู้จักว่าเริ่มต้นค้น ได้ยังไง จะเริ่มต้นจากตรงไหน แต่ข้อมูลที่ค้นพบทั้งหมดก็ไม่ได้ตรงกับที่ผมต้องการเสมอไป ผมใช้เวลานานเหมือนกันกว่าจะตัดสินใจได้ว่าจะเลือกข้อมูลไหนมาทำงานส่งครู ผมว่าทุกวันนี้ ICT มีอิทธิพลเป็นอย่างมากในการเรียนการสอน ทำให้เราเข้าถึงมีความรู้ต่างๆได้อย่างมากมาย ครับ”
บทสัมภาษณ์: นักเรียช่วงชั้นที่ ๒ โรงเรียนสาธิตมหาวิทยาลัยขอนแก่น(ศึกษาศาสตร์). 3 กันยายน ๒๕๕๑
จากบทสัมภาษณ์ข้างต้น ทำให้ผู้เขียนตระหนักถึงอะไรบ้างอย่างที่ก้าวเข้ามาสู่ประตูการศึกษาในปัจจุบัน เมื่อผู้เขียนด้ลองมองย้อนไปในอดีตการเรียนการสอนที่ต้องนั่งเรียนในชั้น จากนั้น ครูเข้ามา แล้วเริ่มบอกให้ผู้เรียนท่องบทเรียนที่สอน แถมยังกำชับให้จำให้ได้ หรือ ไม่ก็ให้อ่านตัวหนังสือที่ครูบรรจง จดบนกระดานดำ และเมื่อถึงเวลาท้ายชั่วโมงครูก็สอบ ผู้เรียนยังทำหน้า ไม่เข้าใจกับสิ่งที่ครูทำ ยังไม่ได้รับรู้ด้วยซ้ำว่า เรียนแบบนี้ไปทำไม? เมื่อเรียนไปแล้วจะนำไปใช้ในชีวิตประจำวันได้อย่างไร? การสอบบางครั้งผ่าน บางครั้งไม่ผ่าน ครูวัดจากตรงไหน ? ครูรู้ได้อย่างไรว่าผู้เรียนมีความเข้าใจในเนื้อหากระบวนการมากน้อยเพียงใด? แต่วิธีการสอนเช่นนี้ สามารถพบเห็นได้ในหลายโรงเรียน ซึ่งปัจจุบันเองก็ยังพบเห็นอยู่เช่นเดิม เนื่องจากเป็นวิธีการสอนที่ใช้กันมานาน
แต่เมื่อกระแสโลกกาภิวัฒน์ก้าวเข้ามา พร้อมกับการเปลี่ยนแปลง กรอบความคิด แนวคิดเริ่มใหม่ๆ เข้ามา การนำระบบเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร (Information and Communication Technology: ICT) เข้ามาใช้ในการเรียนการสอน เปิดให้ผู้เรียนและผู้สอนสามารถติดต่อและให้คำปรึกษา ตลอดจนการศึกษาและเรียนรู้ด้วยตัวเองที่สามารถเรียกข้อมูลมาใช้ได้จากทุกที่ ที่มีการเชื่อมต่อเครือข่าย ผู้เรียนได้รับความรู้ที่ใช้อินเตอร์เน็ตเป็นตัวกลางถือได้ว่าเป็นแรงสำคัญในการเชื่อมโยงแหล่งความรู้ ข้อมูลเนื้อหา ชุดวิชาในการสอนเข้าด้วยกันโดยไม่มีพรมแดนกั้น การเรียนน่าตื่นเต้นและน่าติดตาม อยากศึกษาอยากเรียนรู้วิชาไหนก็ทำได้ง่ายเพียงปลายนิ้ว โดยมีผู้สอนเป็นผู้ชี้นำและให้คำปรึกษา ทำให้ Ideal Education เปลี่ยนแปลงไปสู่ Formal Education และนำไปสู่ Experience Education มากขึ้น
ปัญหาที่ตามมาคือ การก้าวตามกระแสที่เปลี่ยนแปลงอย่างไม่มีที่สิ้นสุดนี้ ครูต้องรับบทบาทในการนำกระแสไม่ใช่ผู้ตามกระแส แต่หากเอาเข้าจริง ครูไม่สามารถที่จะทำอย่างนั้นได้ การเตรียมความพร้อมเพื่อเรียนรู้ให้ทันจึงเป็นทางออกแรกในการพัฒนาตนให้ทันการเปลี่ยนแปลง การปรับใช้เทคโนโลยีเพื่อพัฒนาความสามารถในการแก้ปัญหา การเรียนรู้ที่เน้นผู้เรียนเป็นศูนย์กลางสามารถออกแบบแผนการเรียนการสอนในรูปแบบที่หลากหลาย เช่น คอมพิวเตอร์ช่วยสอน (CAI) ระบบการเรียนทางไกล (Distance Learning) และการเรียนแบบออนไลน์ (E-learning) เหล่านี้ น่าจะช่วยให้ผู้เรียนมีโอกาสเรียนรู้ได้มากขึ้น ได้แสวงหาความรู้ตามหลักสูตร ด้วยการวางแผนกำหนดข้อมูลหรือสาระที่ต้องการ โดยผู้สอนแสดงแหล่งข้อมูล ทั้งจากเอกสารสิ่งพิมพ์และจาก Electronic Sources เช่น ชื่อของ Web ต่าง ๆ ให้ผู้เรียนแสวงหาข้อมูล วิเคราะห์ สังเคราะห์ เป็นคำตอบ สร้างเป็นองค์ความรู้ต่าง ๆ โดยใช้เทคโนโลยี โดยมีความคาดหวังว่า เมื่อมีผู้เรียนเข้าสู่กระแสเทคโนโลยีนี้ ก็น่าจะใช้ประโยชน์และโอกาสจากความหลากหลายของข้อมูลในโลก ICT ได้อย่างดี และเกิดประโยชน์สูงสุดในการเรียนการสอน ซึ่งสิ่งที่ครูจะทำได้ คือ การเรียนรู้ ทำความเข้าใจในเทคโนโลยี และเชื่อมโยงกระบวนการเรียนรู้ให้เข้ากับเทคโนโลยีสารสนเทศที่ไร้ขอบเขต ให้เกิดประโยชน์ในการศึกษาให้มากที่สุด
บทสัมภาษณ์: นักเรียช่วงชั้นที่ ๒ โรงเรียนสาธิตมหาวิทยาลัยขอนแก่น(ศึกษาศาสตร์). 3 กันยายน ๒๕๕๑
จากบทสัมภาษณ์ข้างต้น ทำให้ผู้เขียนตระหนักถึงอะไรบ้างอย่างที่ก้าวเข้ามาสู่ประตูการศึกษาในปัจจุบัน เมื่อผู้เขียนด้ลองมองย้อนไปในอดีตการเรียนการสอนที่ต้องนั่งเรียนในชั้น จากนั้น ครูเข้ามา แล้วเริ่มบอกให้ผู้เรียนท่องบทเรียนที่สอน แถมยังกำชับให้จำให้ได้ หรือ ไม่ก็ให้อ่านตัวหนังสือที่ครูบรรจง จดบนกระดานดำ และเมื่อถึงเวลาท้ายชั่วโมงครูก็สอบ ผู้เรียนยังทำหน้า ไม่เข้าใจกับสิ่งที่ครูทำ ยังไม่ได้รับรู้ด้วยซ้ำว่า เรียนแบบนี้ไปทำไม? เมื่อเรียนไปแล้วจะนำไปใช้ในชีวิตประจำวันได้อย่างไร? การสอบบางครั้งผ่าน บางครั้งไม่ผ่าน ครูวัดจากตรงไหน ? ครูรู้ได้อย่างไรว่าผู้เรียนมีความเข้าใจในเนื้อหากระบวนการมากน้อยเพียงใด? แต่วิธีการสอนเช่นนี้ สามารถพบเห็นได้ในหลายโรงเรียน ซึ่งปัจจุบันเองก็ยังพบเห็นอยู่เช่นเดิม เนื่องจากเป็นวิธีการสอนที่ใช้กันมานาน
แต่เมื่อกระแสโลกกาภิวัฒน์ก้าวเข้ามา พร้อมกับการเปลี่ยนแปลง กรอบความคิด แนวคิดเริ่มใหม่ๆ เข้ามา การนำระบบเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร (Information and Communication Technology: ICT) เข้ามาใช้ในการเรียนการสอน เปิดให้ผู้เรียนและผู้สอนสามารถติดต่อและให้คำปรึกษา ตลอดจนการศึกษาและเรียนรู้ด้วยตัวเองที่สามารถเรียกข้อมูลมาใช้ได้จากทุกที่ ที่มีการเชื่อมต่อเครือข่าย ผู้เรียนได้รับความรู้ที่ใช้อินเตอร์เน็ตเป็นตัวกลางถือได้ว่าเป็นแรงสำคัญในการเชื่อมโยงแหล่งความรู้ ข้อมูลเนื้อหา ชุดวิชาในการสอนเข้าด้วยกันโดยไม่มีพรมแดนกั้น การเรียนน่าตื่นเต้นและน่าติดตาม อยากศึกษาอยากเรียนรู้วิชาไหนก็ทำได้ง่ายเพียงปลายนิ้ว โดยมีผู้สอนเป็นผู้ชี้นำและให้คำปรึกษา ทำให้ Ideal Education เปลี่ยนแปลงไปสู่ Formal Education และนำไปสู่ Experience Education มากขึ้น
ปัญหาที่ตามมาคือ การก้าวตามกระแสที่เปลี่ยนแปลงอย่างไม่มีที่สิ้นสุดนี้ ครูต้องรับบทบาทในการนำกระแสไม่ใช่ผู้ตามกระแส แต่หากเอาเข้าจริง ครูไม่สามารถที่จะทำอย่างนั้นได้ การเตรียมความพร้อมเพื่อเรียนรู้ให้ทันจึงเป็นทางออกแรกในการพัฒนาตนให้ทันการเปลี่ยนแปลง การปรับใช้เทคโนโลยีเพื่อพัฒนาความสามารถในการแก้ปัญหา การเรียนรู้ที่เน้นผู้เรียนเป็นศูนย์กลางสามารถออกแบบแผนการเรียนการสอนในรูปแบบที่หลากหลาย เช่น คอมพิวเตอร์ช่วยสอน (CAI) ระบบการเรียนทางไกล (Distance Learning) และการเรียนแบบออนไลน์ (E-learning) เหล่านี้ น่าจะช่วยให้ผู้เรียนมีโอกาสเรียนรู้ได้มากขึ้น ได้แสวงหาความรู้ตามหลักสูตร ด้วยการวางแผนกำหนดข้อมูลหรือสาระที่ต้องการ โดยผู้สอนแสดงแหล่งข้อมูล ทั้งจากเอกสารสิ่งพิมพ์และจาก Electronic Sources เช่น ชื่อของ Web ต่าง ๆ ให้ผู้เรียนแสวงหาข้อมูล วิเคราะห์ สังเคราะห์ เป็นคำตอบ สร้างเป็นองค์ความรู้ต่าง ๆ โดยใช้เทคโนโลยี โดยมีความคาดหวังว่า เมื่อมีผู้เรียนเข้าสู่กระแสเทคโนโลยีนี้ ก็น่าจะใช้ประโยชน์และโอกาสจากความหลากหลายของข้อมูลในโลก ICT ได้อย่างดี และเกิดประโยชน์สูงสุดในการเรียนการสอน ซึ่งสิ่งที่ครูจะทำได้ คือ การเรียนรู้ ทำความเข้าใจในเทคโนโลยี และเชื่อมโยงกระบวนการเรียนรู้ให้เข้ากับเทคโนโลยีสารสนเทศที่ไร้ขอบเขต ให้เกิดประโยชน์ในการศึกษาให้มากที่สุด